“จุรินทร์” นำ ปชป. ปราศรัยใหญ่นัดสุดท้ายลานคนเมือง ปลุกคนไทยทั้งประเทศให้ #Saveประชาธิปัตย์ เพื่อเป็น “เสาหลัก” #ประชาธิปไตยไม่โกง พาประเทศรอด

12 พ.ค. 2566

เวลา 17.30 น.

ลานคนเมือง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำทัพปราศรัยยิ่งใหญ่ปลุกคนไทย #SAVE ประชาธิปัตย์ เพื่อ #SAVE ประชาธิปไตยไม่โกง” ที่บริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมี บรรดาผู้สมัคร ส.ส. เขต กทม. ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พร้อมแกนนำคนสำคัญของพรรคเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้) น.ส.วทันยา บุนนาค (มาดามเดียร์) และนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค ร่วมเป็นพิธีกร

-คำต่อคำ-

สวัสดีพี่น้องทั้งประเทศทุกท่าน สวัสดีพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ทั้ง 33 เขต ที่เคารพยิ่ง ประชาธิปัตย์และพวกเราทุกคนที่นี่วันนี้อบอุ่นเป็นอย่างยิ่งเพราะพี่น้องมากันเต็มลานคนเมืองกรุงเทพมหานคร ก่อนอื่นขอถือโอกาสนี้ขอบคุณพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่ 77 ปีที่ผ่านมา พี่น้องคนไทยทั้งประเทศไม่เคยทอดทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีการเลือกตั้งครั้งไหนที่ประชาธิปัตย์ไม่มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรแม้แต่ครั้งเดียวในประวัติศาสตร์

ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณพี่น้องชาวไทยทั่วทั้งประเทศรวมทั้งพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครที่อยู่เต็มลานคนเมืองวันนี้ มาด้วยความซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้เป็นวันสุดท้ายสำหรับการปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งครั้งนี้แล้วครับ เพราะนับจากวันนี้ เหลือพรุ่งนี้วันเดียว พรุ่งนี้หลังหกโมงเย็นก็หาเสียงไม่ได้แล้ว เพราะมะรืน 14 พฤษภา เป็นวันเลือกตั้ง

เลือกตั้งเที่ยวนี้ต้องยอมรับความจริง ว่าแข่งขันกันรุนแรงครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ แข่งขันกันรุนแรงทั้งคน ทั้งนโยบาย ทั้งพรรค และการสร้างกระแสทางการเมือง เพื่อทำให้คนเข้าใจว่าเสียงบางพรรคการเมือง ดีเป็นเลิศและสามารถแลนสไลด์ได้ ที่สำคัญที่ผมเป็นห่วงอย่างยิ่ง วันนี้ PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครหมดแล้ว ด้วยฝนหลวงที่ลงมาชะล้าง แต่ปรากฏว่าที่น่าห่วงกว่า PM 2.5 ก่อนหน้านี้ วันนี้คือ PM 500 กับ PM 1,500

ผมถึงอยากกราบเรียนกับท่านทั้งหลาย ว่าเลือกตั้งเที่ยวนี้พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครและพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ อย่าเลือกตามกระแส และอย่าเลือกเพราะผลประโยชน์เฉพาะหน้า แต่ขอให้เลือกอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ คือการเลือกอนาคตให้กับกรุงเทพมหานครและประเทศไทยของเรา สำหรับกรุงเทพมหานคร ประชาธิปัตย์พร้อม ผู้สมัครทั้งหมดของเรา 33 คน 33 เขตนั่งอยู่ข้างหลังนี่ทั้งหมดแล้ว รวมทั้งผู้สมัครบัญชีรายชื่อของพรรคทุกคนวันนี้ก็มาพร้อมหน้าพร้อมตากันในที่นี้

ขออนุญาตกราบเรียนกับท่านทั้งหลายว่า สถานการณ์การเลือกตั้งสำหรับพรรคประชาธิปัตย์เที่ยวนี้ เมื่อกี้ผมเดินมามีคนถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็ขอตอบสั้นๆ แต่เพียงว่าประชาธิปัตย์ตั้งแต่นับหนึ่ง 4 ปีเท่าที่แล้วมาจนกระทั่งถึงวันนี้ ทุกอย่างดีขึ้นเป็นลำดับ เสียงตอบรับพี่น้องประชาชนจากคนไทยทั้งประเทศดีขึ้นในทุกๆ ภาค อย่างน้อยที่สุดวันนี้ 3 ทัพประชาธิปัตย์กำลังบุกตะลุยในทุกพื้นที่ พร้อมกันทั่วทั้งประเทศ อย่างที่ผมเคยกราบเรียนพี่น้อง ทั้งทัพหัวหน้าพรรค วันนี้หัวหน้าพรรคพร้อมคณะผู้สมัครกรุงเทพมหานครทั้งหมด 33 เขต มาปักหลักอยู่ที่ลานคนเมือง กรุงเทพมหานคร ทัพเลขาธิการพรรค วันนี้ก็จะไปเปิดเวทีปราศรัยที่ภาคใต้ จังหวัดพัทลุง ทัพอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งท่านชวน ทั้งท่านบัญญัติ ตระเวนไปทั่วประเทศโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และที่สำคัญวันนี้มีอดีตหัวหน้าพรรคอีกคนนึงมาร่วมทัพปราศรัยที่ลานคนเมืองวันนี้ด้วย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครับ

ผมถึงขอโอกาสตรงนี้กราบเรียนกับพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานครและคนไทยทั้งประเทศ ว่าขอให้พลังเงียบ พลังประชาธิปัตย์ ช่วยกันตะลุยหาเสียงต่อไปจนนาทีสุดท้าย ให้ประชาธิปัตย์ได้รับเสียงสนับสนุนจากคนไทยทั่วทั้งประเทศให้ถล่มทลายเพื่อให้ประชาธิปัตย์ยืนหยัดคู่ฟ้าไทยต่อไป

หัวใจสำคัญที่สุด ที่ตั้งใจมากราบเรียนกับพี่น้องที่เคารพรักทั้งหลายวันนี้ ก็คือสัญญาณ ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้แถลงไปเมื่อวาน สัญญาณที่พรรคประชาธิปัตย์ได้แถลงไปเมื่อวาน ผมเชื่อว่าหลายคนคงเห็นแล้ว แต่ในฐานะหัวหน้าพรรคขอถือโอกาสนี้เน้นย้ำกับพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร และคนไทยทั้งประเทศอีกครั้งหนึ่งว่า สัญญาณที่ส่งไปเมื่อวานก็คือ ขอเรียกร้องให้คนไทยทั้งประเทศได้ช่วยกัน #saveประชาธิปัตย์ เพื่อให้ประชาธิปัตย์ #saveประชาธิปไตยไม่โกง ให้กับประเทศไทยต่อไป มากราบวิงวอนให้พี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ช่วยกันรักษาประชาธิปัตย์ให้เป็นเสาหลักให้กับประชาธิปไตย ไม่โกง เพราะนี่คือทางรอดทางเดียวของประเทศไทยของเรา

ทำไมต้อง #saveประชาธิปัตย์ save แปลว่าอะไร save แปลว่าช่วยกันปกปักรักษาพรรคการเมืองพรรคนี้เอาไว้ ต้อง #saveประชาธิปัตย์ เพราะเหตุผลประการที่ 1 ต้อง #saveประชาธิปัตย์ เพราะว่าถ้าไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่มีสถาบันทางการเมือง ที่อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต่อไปในประเทศไทยของเรา

ประการที่ 2 ที่ต้องช่วยกันรักษา ต้องช่วยกัน #saveประชาธิปัตย์ ไว้ก็เพราะว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่เป็นเพียงแค่พรรคการเมืองที่มีอายุยั่งยืนยาวที่สุดในประเทศไทยเท่านั้น แต่เป็นพรรคการเมืองที่มีความยั่งยืนอายุยืนยาวที่สุดในเอเชียอาคเนย์ คู่กับพรรคอัมโน ของประเทศมาเลเซีย นี่คือความยั่งยืนที่เกิดจากมือของคนไทยช่วยอุปถัมภ์ค้ำชูประชาธิปัตย์ให้มีความยั่งยืนมาจนถึงวันนี้ เพื่อสร้างประโยชน์และทำการเมืองบริสุทธิ์ให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย

ประการที่ 3 #saveประชาธิปัตย์ เพราะประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองของจอมพลคนใดจอมพลคนหนึ่ง และประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองของนายพลคนใดคนหนึ่ง และประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองของนายทุนคนใดคนหนึ่ง #saveประชาธิปัตย์ เพราะประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองของครอบครัว โดยครอบครัว และเพื่อครอบครัวของใครครอบครัวเดียว #saveประชาธิปัตย์ เพราะประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองของนายพล โดยนายพล และเพื่อนายพล #saveประชาธิปัตย์ เพราะประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคของนายทุน โดยนายทุน และเพื่อนายทุน แต่ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนคนไทยทุกคน พี่น้องเคยได้ยิน สมาพันธ์พรรคการเมืองเสรีนิยมประชาธิปไตยโลกมั้ยครับ คงไม่ค่อยได้ยินหรอก ภาษาอังกฤษชื่อองค์กรนี้ว่า Liberal International สถาบันการเมืองโลกแห่งนี้เป็นที่รวมของพรรคการเมืองจากทั่วโลกที่ไม่ใช่เผด็จการ เป็นที่รวมของพรรคการเมืองทั่วโลกที่เป็นเสรีนิยมประชาธิปไตย เป็นที่รวมของพรรคการเมืองทั่วโลกที่เป็นประชาธิปไตยตัวจริงทั้งต่อหน้าและลับหลัง ที่เป็นประชาธิปไตยตัวจริงทั้งในพรรคและนอกพรรค ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมดจาก 100 ประเทศ 140 พรรคการเมืองทั่วโลกรวมกัน สิ่งที่ต้องการกราบเรียนกับพี่น้องตรงนี้ก็คือว่าในบรรดาพรรคการเมืองทั้งหมดในประเทศไทยมีพรรคการเมืองพรรคเดียวที่สมาพันธ์พรรคการเมืองเสรีนิยมประชาธิปไตยโลกยอมรับเข้าเป็นสมาชิกเพราะเป็นประชาธิปไตยตัวจริงพรรคการเมืองนั้นชื่อพรรคประชาธิปัตย์ นี่คือเหตุผลสำคัญ ทำไมต้องรักษาประชาธิปัตย์ ทำไมต้อง #saveประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ save ไว้แค่เพื่อประเทศไทย แต่เพื่อเสรีนิยมประชาธิปไตยของโลกด้วย

และเหตุผลประการที่ 4 ที่ขออนุญาตกราบเรียนกับท่านทั้งหลายก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องรักษาไว้เพราะประชาธิปัตย์ ไม่ใช่แค่พรรคการเมืองของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง แต่ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น แปลว่าอะไร แปลว่าประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองของคนส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่เป็นพรรคการเมืองของคนไทย ทุกเพศทุกวัย และคนไทยทั่วทั้งประเทศ นี่คือเหตุผลทำไมต้องปกปักรักษาพรรคการเมืองนี้ไว้

และที่สำคัญประการที่ 5 นโยบายของพรรค นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์อาจจะไม่หวือหวา แต่ตกผลึก และมีความรับผิดชอบ และทำได้จริง ที่สำคัญไม่พาประเทศไปสุ่มเสี่ยง แต่สามารถพาประเทศรอดได้จริงในอนาคต ถ้ามีโอกาสตั้งรัฐบาล นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์จะไม่เป็นระเบิดเวลาให้กับประเทศ เพราะนโยบายประชาธิปัตย์ไม่เปลี่ยนทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ดี เปลี่ยนไม่เป็นไร แต่ถ้าดีก็เปลี่ยน สุดท้ายจะพาประเทศไปสู่วิกฤตในอนาคตแน่นอน โดยเฉพาะที่กระทบหัวใจคนไทยทั้งประเทศ

นี่คือสิ่งที่อยากส่งสัญญาณดังๆ ที่ชัดเจนให้กับพี่น้องคนไทยทั้งประเทศได้เห็นว่า ทำไมวันนี้ประชาธิปัตย์ต้องมากราบเรียนกับพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครและคนไทยทั้งประเทศว่า ขอให้ช่วยกัน #saveประชาธิปัตย์

และที่สำคัญที่สุดประการที่ 6 ประการสุดท้ายช่วยกัน #saveประชาธิปัตย์ เพราะพรรคการเมืองพรรคนี้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต

ท่านชวน หลีกภัย เคยพูดบนเวทีนี้ในการปราศรัยครั้งแรก ประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 8 คน 1. นายควง อภัยวงศ์ 2. ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช 3. พ.อ.พิเศษ ถนัด คอมันตร์  4. นายพิชัย รัตตกุล 5. นายชวน หลีกภัย 6. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน 7. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 8. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไม่มีหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนไหนทุจริต จนต้องหนีไปอยู่เมืองนอกแม้แต่คนเดียว

แม้แต่นโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ล่าสุดการประกันรายได้เกษตรกร แม้จะไม่เกี่ยวพันกับพี่น้องชาวกรุงเทพฯ โดยตรง แต่อย่างน้อยเขตรอบนอกกรุงเทพมหานครก็มีเกษตรกรเยอะ หนองจอกปลูกข้าวกันเต็มไปหมด ประกันรายได้เกษตรกรโอนเงินส่วนต่างตรงเข้าบัญชีธนาคาร ธกส. ให้กับชาวนาโดยตรงไม่มีหายหกตกหล่น ทุจริตคอรัปชั่นให้เป็นภาระประเทศแม้แต่บาทเดียว

นี่คือสิ่งสั้นๆ ที่อยากพิสูจน์ให้พี่น้องได้เห็นจริงว่าการบริหารราชการแผ่นดินของประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร และนี่คืออย่างน้อย 6 เหตุผล ที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ ขอส่งสัญญาณไปยังพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครและคนไทยทั้งประเทศว่า ทำไมพวกเราจึงมากราบวิงวอนพี่น้องทั่วทั้งประเทศ ขอให้ช่วยกันรักษาประชาธิปัตย์ และขอให้ช่วย save พรรคการเมือง พรรคนี้ไว้คู่ประเทศไทยต่อไป

ที่สำคัญที่ต้องขอใช้เวลาตรงนี้กับพี่น้องก็คือ ทำไมนอกจาก #saveประชาธิปัตย์ แล้วทำไมต้อง #saveประชาธิปไตยไม่โกง ที่ต้อง #saveประชาธิปไตยไม่โกง เพราะมี 2 คำ คำที่ 1 ประชาธิปไตย กับคำที่ 2 ไม่โกง ประเทศไทยจะอยู่รอดได้ต่อไปนี้ต้องมี 2 คำนี้รวมอยู่ด้วยกัน ทำไมต้องประชาธิปไตย ประชาธิปไตยที่ว่าต้องเป็นประชาธิปไตยเต็มใบเท่านั้น ประชาธิปไตยครึ่งใบมันไปต่อไม่ได้มันจะเจอแรงเสียดทานไม่รู้จบเหมือนหลายปีที่ผ่านมา พี่น้องก็เห็นอยู่กับตาตัวเองแล้วใช่ไหมครับ จึงมีแต่ประชาธิปไตยที่แท้จริงที่จะพาประเทศรอด แต่ประชาธิปไตยอย่างเดียวมันไม่พอ เพราะหลายยุคหลายสมัยที่ประเทศไปต่อไม่ได้เพราะมันไม่ใช่ประชาธิปไตยไม่โกง มีประชาธิปไตยแต่สุดท้ายกลายเป็นประชาธิปไตยโคตรโกง

สุดท้ายคนเสียหายคือประชาชน สะพานแทนที่จะมีหมื่นสะพาน เหลือ 6,000 เพราะโกงไป 4,000 บาท ไฟฟ้าในหมู่บ้านชุมชน แทนที่จะมีหมื่นดวง เหลือ 7,000 ดวง เพราะเข้าพุงใครไม่รู้ 3,000 ดวง ประปา แทนที่จะไปได้หมื่นหมู่บ้าน เหลือ 8,000 หมู่บ้าน เพราะหายไปกับการโกง 2,000 หมู่บ้าน โรงพยาบาลแทนที่จะมีพันโรงเหลือ 6,000 โรง เพราะหายไปกับการโกง 4,000 โรง นี่คือสุดท้ายคนรับกรรมคือประชาชน แต่แค่นั้นไม่พอ โกงเมื่อไหร่ประชาธิปไตยไปต่อไม่ได้เมื่อนั้น เพราะยึดอำนาจมาทุกครั้งพี่น้องย้อนกลับไปดู อย่าไปดูแค่ปลายเหตุ อย่าไปดูแค่ว่ามียึดอำนาจ แต่ต้องดูก่อนยึดอำนาจว่ารัฐบาลก่อนหน้าทำอะไรไว้ รัฐบาลก่อนหน้าส่วนใหญ่เวลายึดอำนาจก็เพราะโกง

สุดท้ายโกงนอกจากทำร้ายประชาชนยังทำร้ายประชาธิปไตยของประเทศ ประชาธิปัตย์จึงบอกกับพี่น้องว่านอกจาก#saveประชาธิปัตย์ เราต้องช่วยกัน #saveประชาธิปไตยไม่โกง ด้วยครับพี่น้อง และประชาธิปไตยไม่โกง คือทางรอดทางเดียวของประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง และในอนาคตต่อ ๆ ไป นี่คือสิ่งที่ผมอยากส่งสัญญาณกับพี่น้องให้ชัดเจน

ที่สำคัญอีกอันหนึ่งก็คือว่าถ้าพี่น้องไว้วางใจประชาธิปัตย์ ผมยืนยันกับทุกท่านตรงนี้ ถ้าประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลได้ ประชาธิปัตย์พาประเทศรอดแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ ทำไมผมเรียนกับท่านทั้งหลาย ว่าถ้าท่านไว้วางใจประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์พาประเทศรอด เพราะประวัติศาสตร์มันบอกเราทุกครั้งที่ประเทศมีวิกฤต ทุกครั้งที่ประเทศประสบปัญหาเศรษฐกิจ ประชาธิปัตย์เข้ามากู้วิกฤตทุกครั้งใช่ไหมครับพี่น้องครับ พี่น้องจำต้มยำกุ้งได้มั้ยครับ ไม่ใช่ต้มยำที่ขายอยู่หน้าร้านข้าวต้มข้าง กทม. แต่นั่นคือวิกฤตเศรษฐกิจที่ทำให้ธนาคารล้มไปทั่วโลกแล้วมีปัญหาโดยเฉพาะประเทศไทยคือต้นตอวิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งนั้น ก่อนประชาธิปัตย์เข้ามา มีการลดค่าเงินบาทแล้วรัฐบาลก็ล้ม สุดท้ายคนที่เข้ามากู้วิกฤตต้มยำกุ้งคืออดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย ครับ

ล่าสุดปี 51 โลกประสบปัญหาเศรษฐกิจ กระทบทั้งโลก ลามมาประเทศไทยด้วย เขาเรียกวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ สถาบันการเงินได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แต่สุดท้ายคนที่มากู้วิกฤตคือหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และในยามที่ประเทศไทยประสบวิกฤตโควิด ส่งออกทั่วโลกเดี้ยงกันเกือบทุกประเทศ แต่มีประเทศเดียวที่รอดและเป็นบวก ปีที่แล้วปีเดียวทำเงินเข้าประเทศเกือบ 10 ล้านล้านบาท มากที่สุดตั้งแต่มีประเทศไทยมา คนๆ นั้น คือหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

ผมจึงขออนุญาตกราบเรียนกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าเลือกประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์พาเศรษฐกิจรอด และสำคัญไม่แพ้กัน ประชาธิปัตย์พาประชาธิปไตยรอด เมื่อวานใครตามข่าวบ้าง ผบ.ทบ.บอกว่า ต่อไปปฏิวัติ จะเป็นศูนย์ ผมบอกพี่น้องเลยถ้าเลือกประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลได้ปฏิวัติก็จะเป็นศูนย์ เพราะประชาธิปัตย์ไม่โกง อย่างที่ผมกราบเรียนกับพี่น้อง ไม่สร้างเงื่อนไขการปฏิวัติยึดอำนาจเหมือนการยึดอำนาจหลายครั้งหลายรัฐบาลที่ผ่านพ้นมา

นี่คือสัญญาณทั้งหมดที่ขออนุญาตส่งไปยังพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร และพี่น้องคนไทยทั้งประเทศให้ช่วยกัน #saveประชาธิปัตย์ เพื่อให้ประชาธิปัตย์เป็นเสาหลักในการ #saveประชาธิปไตยไม่โกง และเพื่อให้เป็นทางรอดของประเทศต่อไป

พี่น้องครับ ผมกราบเรียนกับพี่น้องอีกนิดเดียว แล้วเราก็เคารพธงชาติด้วยกัน พี่น้องครับทั้งหมดนี้คือสัญญาณที่ขออนุญาตส่งไปยังพี่น้องคนไทยทั่วทั้งประเทศ ขอส่งไปยังพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ขอส่งไปยังพลังเงียบ ขอส่งไปยังพลังประชาธิปัตย์ทั่วทั้งประเทศ ให้ช่วยกัน#saveประชาธิปัตย์ #saveประชาธิปไตยไม่โกง เพื่อให้ประเทศของเราได้อยู่รอด และพบกับความเจริญรุ่งเรืองต่อไป วันที่ 14 พฤษภาคม ผมขอวิงวอนพี่น้องทุกคน พลังเงียบ พลังประชาธิปัตย์ พลังคนไทยทั้งประเทศ ช่วยกันครับ ช่วยกันไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แล้วไปช่วยลงคะแนนให้กับผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 400 เขต 400 คน ที่กรุงเทพมหานคร ทั้ง 33 เขตทั้ง 33 คน และอย่าลืมบัตรสีเขียวขอให้ช่วยกันชักจูงทุกคนรวมทั้งตัวเองไปลงคะแนนให้กับ พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 เพื่อรักษาประชาธิปัตย์ไว้ ให้สามารถพาประเทศรอดได้ต่อไปด้วยประชาธิปไตย ไม่โกงครับ ขอบคุณครับพี่น้องครับ

สำหรับบรรยากาศการปราศรัยใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์ ในเวทีสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 2566  นี้ มีพี่น้องประชาชนมาร่วมรอฟังการปราศรัยตั้งแต่ช่วงบ่าย บริเวณรอบลานคนเมือง มีการติดจอ LED มีตัวอักษรวิ่ง #Saveประชาธิปัตย์ #ประชาธิปไตยไม่โกง พร้อมทั้งมีบรรดาแฟนคลับทั้งที่เป็นของพรรคประชาธิปัตย์และของตัวผู้สมัครต่างเข้าจับจองพื้นที่ใกล้เวทีให้มากที่สุด ทำให้บริเวณลานคนเมืองเต็มล้นไปด้วยพี่น้องประชาชนที่สนใจเข้าร่วมฟังการปราศรัยของพรรค มีทั้งการชูป้าย  โบกธง และป้ายไฟเพื่อสนับสนุนให้นายจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรี และยังมีป้ายเชียร์ผู้สมัครของพรรคจากทุกเขตอีกด้วย เมื่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคได้เดินทางมาถึงเวทีปราศรัย บรรยากาศเริ่มคึกคักมากขึ้นเมื่อมีการเปิดเพลง “เช้าวันใหม่” พี่น้องประชาชนทุกเพศทุกวัยสามารถร้องตามได้คล่อง ส่งเสียงเชียร์ พร้อมกับเรียกนายจุรินทร์ว่า “นายกๆ” “นายกฯ มาแล้ว” ดังเป็นระยะ มีการมอบดอกไม้ โบกมือทักทาย ทำมือสัญลักษณ์หัวใจ และขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเป็นจำนวนมาก ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่า การปราศรัยใหญ่ครั้งนี้จะมีส่วนทำให้ประชาชนตัดสินใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กลับมาทำงานรับใช้ประชาชนอย่างท่วมท้นต่อไป