“จุรินทร์” ประชุมตัวแทน ปชป.ภาคเหนือ 71 เขต ประกาศยุทธศาสตร์ ”เหนือเชื่อมโลก”

18 มี.ค.2565
14.20 น.
จังหวัดเชียงใหม่

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มาร่วมงานพบปะตัวแทนพรรค ภาคเหนือ ที่โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรค หัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย นายไพฑูรย์ แก้วทอง กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค พร้อมด้วย ส.ส. และอดีต ส.ส.ภาคเหนือ อาทิ นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู นายธนิตพล ไชยนันทน์ นายแพทย์เทียนชัย สุวรรณเพ็ญ นายสมบัติ ยะสินธุ์ นายวิรัตน์ วิริยะพงศ์ นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร นายยุพราช บัวอินทร์ นายขยัน วิพรหมชัย และกลุ่มพลังคนรุ่นใหม่ NorthDem

โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ยุคอุดมการณ์ ทันสมัย มีคนที่มีศักยภาพ คนรุ่นใหม่เดินทางเข้ามาร่วมอุดมการณ์กับพรรคเป็นจำนวนมาก ใครมีศักยภาพ มีความสามารถที่จะพาพรรคเดินไปข้างหน้าได้ ประชาธิปัตย์ก็ให้โอกาสทุกคนทุกวัย วันนี้จึงกล้าบอกว่าเลือดใหม่ไหลเข้าเยอะเลย และเลือดใหม่นี้ไม่ได้แปลว่าอายุ 16 แต่อายุ 45 อายุ 53 ก็เป็นเลือดใหม่ได้ ความใหม่ไม่ได้อยู่ที่วัย ไม่ได้อยู่ที่อายุ แต่อยู่ที่ศักยภาพ อยู่ที่ความคิดความอ่าน ความทันสมัย ที่จะพัฒนาประเทศของเราเดินไปข้างหน้า

พร้อมกับกล่าวอีกว่า ประชาธิปัตย์กับภาคเหนือนั้นมีความผูกพันกันมาตั้งแต่ก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี พ.ศ. 2489 และมีผู้ร่วมก่อตั้งพรรคถึง 10 คน ใน 45 คน เป็นคนภาคเหนือ นี่คือบรรพบุรุษภาคเหนือของประชาธิปัตย์ ดังนั้นจึงบอกได้ว่าประชาธิปัตย์กับภาคเหนือไม่ได้ห่างไกลกัน เป็นผู้ก่อกำเนิดที่นับหนึ่งในการสร้างพรรคมาตั้งแต่ 2489 จนถึงวันนี้ประชาธิปัตย์จะมีอายุครบ 76 ปี และจะเดินต่อไปอีกตราบชั่วฟ้าดินสลาย เพราะประชาธิปัตย์จะไม่มีแต่อดีตและปัจจุบัน แต่ยังมีอนาคต

“หลายพรรคการเมืองไม่มีอดีต มีแต่ปัจจุบันกับอาจจะมีอนาคต หรืออาจจะไม่มีอนาคต แต่ประชาธิปัตย์พิสูจน์ชัดแล้ว และประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่ง แต่ประชาธิปัตย์มีจุดแข็ง เพราะเราเป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น แค่ภาคเหนือก็มีบทพิสูจน์ให้เห็นชัดเจน มีทั้งรุ่นอาวุโส รุ่นกลาง และรุ่นใหม่ๆ ที่จะพัฒนาจากยุวประชาธิปัตย์ ไปเป็น Young Blue ในอนาคต และเป็นความแตกต่างระหว่างประชาธิปัตย์กับหลายพรรคการเมือง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

พร้อมกับเพิ่มเติมว่า แม้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาจะได้รับเลือกตั้งเพียง 1 คน แต่เที่ยวหน้าไม่ใช่ว่าจะเป็นศูนย์ หรือติดลบ พรรคเรามีขึ้นมีลง มีน้อยมีมาก เราผ่านพ้นสิ่งเหล่านี้มาแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้ 1 ครั้งหน้าอาจจะมากกว่านี้ และวันนี้ทีมภาคเหนือประชาธิปัตย์ยังแข็งแรง เข้มแข็งแน่นเหนียวอย่างยิ่ง อดีตผู้แทนราษฎรทั้ง 11-12 คน ที่พลาดการเลือกตั้งครั้งล่าสุด แต่จุดแข็งก็คือทุกคนที่เป็นอดีตผู้แทนของเราในปี 54 ยังอยู่กับพรรคครบทุกคนไม่มียกเว้น และยืนหยัดต่อสู้ต่อไปเพื่อให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ทั้งนี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ระบุว่า พรรคได้มีการเตรียมการอย่างน้อย 2 เรื่อง ทั้งเรื่องตัวบุคคล และนโยบาย ยุทธศาสตร์ที่จะขับเคลื่อนภาคเหนือซึ่งมีความชัดเจนแล้ว โดยเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2564 นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ที่ดูแลภาคเหนือได้มีการประชุมระดมความคิด ซึ่งจะได้นำไปปรับแต่งให้มีรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจภาคเหนือภายใต้ยุทธศาสตร์ประชาธิปัตย์ภาคเหนือ ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับ 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1. การเกษตรหรือเกษตรกร 2. การค้า ซึ่งรวมถึงการค้าชายแดนและการส่งออก 3.การท่องเที่ยว

“ทั้งการค้าและการท่องเที่ยวจะต้องไม่ใช่การท่องเที่ยวและการค้า แค่ค้าในภาคเหนือ และค้าในประเทศ แต่จะต้องค้าไกลไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ยุทธ์ศาสตร์เหนือเชื่อมโลก จึงเป็นยุทธศาสตร์ภาคเหนือของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เราจะต้องขับเคลื่อนต่อไปให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ปัจจุบันนี้ด่านชายแดนมี 96 ด่าน เป็นด่านชายแดนรอบภาคเหนือ 29 ด่าน ทุกด่านล้วนมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของคนภาคเหนือ เพื่อให้เศรษฐกิจคนภาคเหนือ ตั้งแต่ตัวใหญ่ คนตัวเล็กกระดุกกระดิกได้ ขับเคลื่อนได้ และนำรายได้มาให้กับคนภาคเหนือ ตั้งแต่ระดับผู้ส่งออก ผู้ประกอบการตัวใหญ่ SMEs และ MSMEs รวมทั้งเศรษฐกิจฐานราก เกษตรกร ประชาธิปัตย์จะทำให้ฝันนี้เป็นจริงที่เป็นรูปธรรม” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมอีกว่า นโยบายประชาธิปัตย์สำหรับภาคเหนือไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แต่ยังมีนโยบายขับเคลื่อนเฉพาะเพื่อพัฒนากลุ่มชาติพันธุ์ด้วย เพื่อให้สามารถการเข้าถึงการบริการภาครัฐ สวัสดิการต่างๆ ที่เป็นเรื่องจำเป็น ทั้งการเรียน การรักษาพยาบาล และการเข้าถึงบริการอื่นๆที่คนไทยทั่วไปได้รับสิทธิ์ กลุ่มชาติพันธุ์ก็คือคนไทยคนหนึ่งเพียงแต่อยู่ห่างไกลศูนย์กลางความเจริญ แต่ถือว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข ความเป็นคนไทยเขามีอยู่ครบถ้วน 100% เขาควรได้รับสิทธิความเป็นคนไทยตามกฎหมาย ซึ่งประชาธิปัตย์จะเข้าไปช่วยดูให้ต่อไปในอนาคต

ซึ่งงานพบปะตัวแทนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือวันนี้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความแน่นแฟ้น กลมเกลียว โดยหัวหน้าพรรคได้กล่าวขอบคุณสมาชิกพรรคทุกรุ่นที่ร่วมอุดมการณ์กับพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับเชื่อมั่นว่าคนรุ่นใหม่ก็จะเป็นกำลังสำคัญให้กับประชาธิปัตย์ในอนาคต ขอบคุณทั้งอดีต ขอบคุณปัจจุบัน และขอบคุณที่จะช่วยสร้างอนาคตให้ประชาธิปัตย์ในภาคเหนือ และมีความตั้งมั่นร่วมกันทำงานให้ดีที่สุดในนามประชาธิปัตย์ภาคเหนือเพื่อประโยชน์ของคนภาคเหนือเป็นสำคัญ