“จุรินทร์” ส่งสัญญาณ ให้สมาชิกพรรคกลับมาช่วยพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง เสนอทางรอดประเทศไทย ต้อง “ประชาธิปไตย ไม่โกง”

7 เม.ย. 2566
เวลา 19.00 น.
ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

คำต่อคำ
สวัสดีครับพี่น้องครับผมอยู่ตรงนี้ครับ อยู่ทางวัดสุทัศน์ครับ มากับพระครับ ..
2-3 วันที่แล้วผมนำผู้สมัครบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ไปสมัครปรากฏว่าพรรคประชาธิปัตย์ จับได้เบอร์ 26 มีคนบอกว่า เบอร์ 26 เป็นมงคลอย่างยิ่งสำหรับปี 66 เพราะ 2 + 6 ได้เท่ากับ Infinity แปลว่าไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวานวันเกิดพรรคประชาธิปัตย์ 6 เมษายน 2566 ประชาธิปัตย์ตั้งมาตั้งแต่ 6 เมษายน 2489 มาถึงเมื่อวานครบ 77 ปีพอดี และวันนี้ประชาธิปัตย์กำลังก้าวเดินสู่ปีที่ 78 กลายเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศไทย ทำไมประชาธิปัตย์กลายเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศได้ อย่างน้อยที่สุดเหตุผล 2 ข้อ

ข้อ 1 เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์ และอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่สำคัญที่สุดก็คือว่า ประชาธิปัตย์ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประชาธิปัตย์พร้อมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น และพร้อมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ถ้าจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ประชาธิปัตย์มีข้อแม้ ต้องไม่แตะหมวด 1 กับหมวด 2 เพราะอะไร เพราะหมวด 1 เป็นหมวดที่ว่าด้วย ความเป็นประเทศไทยของเรา ที่ระบุไว้ชัดเจนว่าประเทศไทยต้องเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกันผู้ใดจะแบ่งแยกมิได้ และที่ประชาธิปัตย์ไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ก็เพราะว่าหมวด 2 เป็นหมวดที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเราเห็นว่ามีความเหมาะสมแล้ว และนอกจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สิ่งหนึ่งที่ผมขอกราบเรียนกับพี่น้องที่เป็นจุดยืนของประชาธิปัตย์ก็คือว่า ประชาธิปัตย์จะไม่ยกเลิกมาตรา 112 ที่ไม่ยกเลิกมาตรา 112 เพราะ มาตรา 112 เป็นตัวบทกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองประมุขของประเทศ ทุกประเทศในโลกเขาก็ล้วนมีบทบัญญัติของกฎหมายคุ้มครองประมุขของเขาทั้งสิ้น แล้วทำไมประเทศไทยจะมีกฎหมายคุ้มครองประมุขของประเทศไทยไม่ได้ ถ้าจะแก้ไขให้ไปแก้ที่การบังคับใช้กฎหมายให้ยุติธรรม อย่าใช้มาตรา 112 เป็นเครื่องมือกันในทางการเมือง แต่มาตรา 112 ต้องคงไว้

นี่คืออุดมการณ์ชัดเจนของประชาธิปัตย์ และทำให้เรายึดมั่นสืบทอดกันมาตั้งแต่ปี 2489 มาจนถึงวันนี้ 77 ก้าวเข้าสู่ปีที่ 78 นอกจากนั้นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ประชาธิปัตย์อยู่ยั้งยืนยงมาได้จนกระทั่งถึงวันนี้ ก็เพราะประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองของคนรุ่นใดรุ่นหนึ่งแต่เป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น ประชาธิปัตย์มีทั้งคนรุ่นอาวุโสที่เพียบพร้อมด้วยประสบการณ์ และรับใช้บ้านเมืองมายาวนาน แม้จนวันนี้ก็ยังหายใจเป็นบ้านเมืองและประชาชน เช่น ท่านชวน หลีกภัย ท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นต้น ท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ก็ยังรับใช้บ้านเมืองอยู่ในสถานภาพที่เหมาะสมสำหรับท่านในวันนี้

และนอกจากรุ่นอาวุโสก็มีนักการเมืองรุ่นกลางๆ อย่างผม และท่านเลขาธิการพรรค เฉลิมชัย ศรีอ่อน กรรมการบริหารพรรคทุกคนที่รับผิดชอบพรรคประชาธิปัตย์วันนี้ ที่สำคัญประชาธิปัตย์มีคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมอุดมการณ์กับเราเต็มไปหมด เต็มพรรค นั่งอยู่ตรงโน้นเกือบร้อยที่เป็นคนรุ่นใหม่ของประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น ไม่ใช่รุ่นใดรุ่นหนึ่งเท่านั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยู่ยั้งยืนยงมาได้จนถึงวันนี้และจะอยู่ต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด

เพราะฉะนั้นถ้าพี่น้องให้ความไว้วางใจประชาธิปัตย์ ผมยืนยัน ประชาธิปัตย์ไว้ใจได้เพราะประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจที่ตั้งมาชั่วครั้งชั่วคราว ที่สำคัญที่ผมขออนุญาตเรียนกับพี่น้องวันนี้เพิ่มเติมก็คือ ผมยืนยันว่าวันนี้ ประชาธิปัตย์พร้อมเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง พร้อมทั้งคนพร้อมทั้งนโยบาย และพร้อมทั้งคนที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของประชาธิปัตย์ สำหรับคนวันนี้ประชาธิปัตย์พร้อม 400 คน 400 เขตทุกจังหวัดทั่วประเทศ เฉพาะกรุงเทพมหานคร 33 คน พร้อม นั่งอยู่ตรงโน้นหมด 33 เขต ผู้สมัครบัญชีรายชื่อก็พร้อมหมดทุกคนที่จะเข้าสู่สนามการเลือกตั้ง บัญชีรายชื่อเบอร์ 1 ที่พรรคเสนอให้พี่น้องพิจารณา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค 2. ท่านชวน หลีกภัย นั่งอยู่ตรงโน้น อดีตหัวหน้าพรรค 3. ท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกคนหนึ่ง

ผมถึงขออนุญาตกราบเรียนว่าคนพร้อมและถ้าพี่น้องลงคะแนน นอกจากเลือก ส.ส.เขตของเราเบอร์อะไรตอนนี้มึนไปหมด เพราะแต่ละเขตเบอร์ไม่เหมือนกันแต่ไม่เป็นไร จำไม่ยากหรอก บัตรไปที่ 2 เขาให้พี่น้องเลือกพรรคเพื่อเอาไปคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ เวลาพี่น้องเข้าคูหา พี่น้องก็กาบัตรใบที่ 2 เขียนว่าพรรคประชาธิปัตย์ แล้วก็กากบาทลงไปทันทีที่พี่น้องกาประชาธิปัตย์ แปลว่าพี่น้องเลือกนายจุรินทร์ เลือกนายชวน เลือกนายบัญญัติ และเลือกใครต่อใครอีกเกือบร้อยคนในพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

นี่คือความหมายของการเลือกตั้งและผมเรียนว่าประชาธิปัตย์พร้อม สำหรับนโยบายผมเรียนว่านโยบายประชาธิปัตย์ยุคนี้เป็นนโยบายที่โดนใจที่สุดและตอบโจทย์ประเทศมากที่สุดยุคหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ ที่สำคัญที่ขอเรียนกับพี่น้องไว้ตรงนี้ก็คือว่า นโยบายประชาธิปัตย์ทุกนโยบาย ที่ประกาศออกไปอยู่บนพื้นฐานของความรับผิดชอบ เพราะประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ คิดอะไรขึ้นมาแค่ชั่วครั้งชั่วคราว ขอให้ได้คะแนนเสียงผ่านพ้นไปแล้วเที่ยวหน้ายุบพรรคหรือเลิกพรรคไม่ต้องมารับผิดชอบต่อประชาชนแต่ประชาธิปัตย์ยังต้องอยู่กับพี่น้องตลอดไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย คิดอะไรวันนี้ต้องทำได้วันนี้และรับผิดชอบวันหน้าอนาคตประเทศด้วย ทุกนโยบายของประชาธิปัตย์จึงขอให้พี่น้องทุกคนทั้งชาวกรุงเทพมหานคร และพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศอีก 76 จังหวัดมั่นใจได้และไว้ใจได้
วันนี้ผมเรียนเลย ประชาธิปัตย์จัดทัพเตรียมพร้อมแล้ว 3 ทัพเพื่อลุยหาเสียงทัพที่ 1 ทัพหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ทัพที่ 2 ทัพเลขาธิการพรรค นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน และทัพที่ 3 อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งทัพท่านชวน หลีกภัย ทัพท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน และทัพท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เราผนึกกำลังรวมกันเป็นหนึ่งสู้ศึกเลือกตั้งเที่ยวนี้ ที่กำลังจะมาถึง

พรุ่งนี้หลังจากปราศรัยที่นี่แล้ว ผมไปปราศรัยที่สุโขทัยครับ แล้วก็มะรืนพิษณุโลก กับนครสวรรค์ มะเรื่อง มะเรา จำไม่ไหวแล้วครับ แล้วก็จะต้องตระเวนไปทั่วประเทศ ท่านชวนเมื่อวานอยู่ที่เขตธนบุรี คลองสาน ไปช่วยน้องศิริภา อินทรวิเชียร (เบอร์ 11) แล้วก็พรุ่งนี้ปราศรัยวันนี้เสร็จ ท่านบอกผมจะไปบุกภาคตะวันออกเพื่อหาเสียงให้ประชาธิปัตย์ ท่านบัญญัติรออยู่ที่สุราษฎร์ 15 จะปราศรัยใหญ่เพื่อให้ประชาธิปัตย์ยกทีม 7 ที่นั่งทั้งสุราษฎร์ธานี ท่านอภิสิทธิ์เดินสายหาเสียงมาแล้วในหลายเขตกรุงเทพฯ ไม่กี่วันนี้ไปกระบี่ แล้วก็จะไปอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศไทยเช่นเดียวกัน

นี่คือสิ่งที่ขออนุญาตเรียนกับพี่น้องว่าประชาธิปัตย์พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งเที่ยวนี้ นโยบายขออนุญาตเรียนกับพี่น้องครับสำหรับนโยบาย หลายคนวิจารณ์ว่าแต่ละพรรคการเมืองล้วนแล้วแต่เสนอนโยบายใช้เงินแต่ไม่เห็นมีพรรคการเมืองซักกี่พรรคที่เสนอนโยบายหาเงิน ผมยืนยันกับพี่น้องอย่างน้อยมี 1 พรรคการเมืองที่มีนโยบายชัดเจน ที่จะหาเงิน และสร้างเงินให้ทั้งคนไทยและสร้างเงินให้ประเทศไทยครับ ถ้านายจุรินทร์เป็นนายกรัฐมนตรี ผมเรียนกับพี่น้อง ประชาธิปัตย์จะประกันรายได้ ทั้งประกันรายได้คนไทยและประกันรายได้ประเทศไทย 4 ปีที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลประชาธิปัตย์จะประกันรายได้จากการท่องเที่ยวและการส่งออกสร้างเงินให้ประเทศไทยรวมกันไม่ต่ำกว่า 85 ล้านล้านบาท

นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์กล้าประกาศ เพราะประชาธิปัตย์ทำให้เห็นว่ามาแล้ว นายจุรินทร์ดูแลการส่งออก ปีที่แล้วประเทศไทยมีรายได้ทำเงินให้ประเทศปีเดียวเกือบ 10 ล้านล้านบาทสูงสุดในรอบ 30 ปี สิ่งที่พูดจึงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันแต่เป็นเรื่องที่เมื่อถึงเวลา ถ้าพี่น้องให้โอกาสประชาธิปัตย์ ทำได้ไว ทำได้จริง

และถ้าประชาธิปัตย์เป็นแกนตั้งรัฐบาลนายจุรินทร์เป็นนายกจริงๆ นับ 1 บริหารประเทศเราต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจพาประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ เพราะวันนี้ประเทศกำลังติดหล่มความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะโควิด 3 ปี ทำให้เราต้องกู้เงินมา 2 ล้านล้านในช่วงที่ผ่านมา แต่ 2 ล้านล้านไม่พอที่จะอัดฉีดเม็ดเงินทำให้เศรษฐกิจมันเดินไปข้างหน้าได้เพราะยังขาดอีก 1 ล้านล้าน ถ้าประชาธิปัตย์เป็นแกนตั้งรัฐบาลนายจุรินทร์เป็นนายกฯ เราจะเติมเม็ดเงินเข้าระบบ 1 ล้านล้านบาททันที เพื่อให้เศรษฐกิจประเทศเดินหน้าได้ด้วยอะไร

  1. ด้วยการจัดตั้งธนาคารหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ ทุกหมู่บ้านทุกชุมชน ชุมชนละ 2 ล้านบาท เพื่อเป็นแหล่งเงินสร้างเงินให้คนไทยและพี่น้องในหมู่บ้าน/ชุมชน เฉพาะคนกรุงเทพฯ เรามีชุมชนอยู่ทั้งหมด 2,800 ชุมชน 2,800 ชุมชนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น 2,800 ชุมชนนี้จะมีธนาคารชุมชนชุมชนละ 2 ล้านบาทเช่นเดียวกัน นี่คือสิ่งที่ขอเรียน เงินจำนวนนี้จะอัดเข้าระบบ 2 แสนล้าน
    ข้อ 2 กองทุน กบข. ใครเป็นข้าราชการบ้าง ไม่มีใครกล้ายกมือ ไม่ต้องถามหรอก เอาเป็นว่ากองทุน กบข. วันนี้มีเงินมหาศาล แต่เอาออกมาใช้ยังไม่ได้ ถ้าประชาธิปัตย์เป็นแกนตั้งรัฐบาลเราจะอนุญาตให้ข้าราชการ เบิกเงิน กบข. มาก่อน 30% เพื่อเอามาเติมเม็ดเงินให้ตัวเองให้ครอบครัวและเอามาลดหนี้ จะในระบบหรือนอกระบบก็สุดแล้วแต่ ที่หลายคนบอกว่า ประชาธิปัตย์จะแก้หนี้อย่างไร แก้หนี้อย่างนี้ นี่เป็นข้อ 1 ในการแก้หนี้ด้วย เงินจำนวนวันนี้จะเข้าระบบแสนล้าน เมื่อกี้ 2 อันนี้เป็น 300,000 ล้านบาท แสนที่ 4 กับแสนที่ 5 กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ใครเป็นพนักงานองค์กร ใครเป็นผู้ใช้แรงงาน ทำประกันสังคมเม็ดเงินเยอะมหาศาลแต่เอามาใช้ยังไม่ได้ แต่ถ้าประชาธิปัตย์เป็นแกนตั้งรัฐบาลนายจุรินทร์เป็นนายกฯ ผมเรียนกับพี่น้องเลยครับ เราจะอนุญาตให้เอาเงินมาใช้ได้ก่อนทันที 30% เพื่อมาสร้างเงินให้ตัวเองครอบครัว และกลุ่มชุมชนทั้งหมดต่อไปที่ตนเองสังกัด อันนี้อีก 200,000 ล้าน รวมเป็น 5 แสนล้าน

อีก 300,000 ล้าน ประชาธิปัตย์จะเดินหน้านโยบาย Start Up รู้จัก Start Up มั้ยครับ ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ Start Up กิจการของคนรุ่นใหม่ และ SME ต้องมีแต้มต่อ แปลว่าเขาจะต้องมีโอกาสที่จะมีแต้มต่อทั้งด้านการผลิต องค์ความรู้ การตลาด ที่สำคัญที่เป็นปัญหาใหญ่วันนี้คือการเข้าถึงแหล่งเงินเพื่อมาต่อลมหายใจ และมาต่อเงินให้กิจการที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น SME ที่เป็นวิสาหกิจชุมชน เป็นกลุ่มสตรี เป็นสหกรณ์ และเป็นกลุ่มๆๆๆๆ ทั้งหลายทั้งปวง อันนี้เราจะเปิดโอกาสให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินนี้ไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาท ที่มีที่มาเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นเท่าไหร่แล้ว 2 + 1 + 2 + 3 = 8 แสนล้านเหลืออีก 200,000 ล้าน อันนี้คือนโยบาย 16 ข้อที่ประชาธิปัตย์ประกาศมาแล้วก่อนหน้านี้ พี่น้องไปดูทั้งประกันรายได้เกษตรกร ทั้งนมโรงเรียนฟรี 365 วันเพื่อช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ทั้งในเรื่องของการปลดล็อคประมงพาณิชย์ ทั้งในเรื่องของนโยบายอีกหลายข้อหลายประการ ชมรมผู้สูงอายุ ชมรมละ 30,000 บาท เพื่อทำกิจกรรมสร้างสุขภาพและสร้างสังคมและสร้างอาชีพให้ผู้สูงอายุทั่วทั้งประเทศรวมทั้งกรุงเทพมหานคร

นี่คือ 1 ล้านล้านบาท ที่ประชาธิปัตย์คิดอย่างเข้าใจและพร้อมรับผิดชอบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินไปข้างหน้าทันที ถ้ามีโอกาสเป็นแกนตั้งรัฐบาล และนายจุรินทร์คนนี้เป็นนายกรัฐมนตรี

สุดท้าย สิ่งที่ขออนุญาตเรียนกับพี่น้องตรงนี้ เลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคมที่จะมาถึงนี้ พี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ผมเรียนเลยครับ ท่านไม่มีหลายทางเลือกหรอกครับ คนไทยทั้งประเทศมีทางเลือกทางเดียว ทางเลือกทางเดียวที่ว่านั้นคือการลงมือเลือกทางรอดของประเทศ ทางรอดของประเทศคืออะไร ทางรอดของประเทศถัดจากนี้ไป ผมเรียนกับพี่น้องเลยครับ คือการปกครองระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น และไม่ใช่ประชาธิปไตยครึ่งใบ เพราะประชาธิปไตยครึ่งใบจะเผชิญแรงเสียดทาน และเผชิญปัญหาเช่นที่เราเผชิญมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่มีวันจบสิ้น ทางรอดของประเทศไทยจึงมีแต่ประชาธิปไตยเต็มใบเท่านั้นที่จะพาประเทศไปสู่ความสงบเรียบร้อยต่อไปในอนาคตได้ และที่สำคัญ ประชาธิปไตยอย่างเดียวไม่พอ เพราะเราเคยมีประชาธิปไตยเต็มใบมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดเหมือนกัน ไปไม่รอดเพราะไม่มีข้อ 2

ทางรอดทางเดียวของประเทศคำตอบสำคัญจึงต้องเป็นประชาธิปไตยและต้องไม่โกงด้วยครับพี่น้องครับ เพราะโกงเมื่อไหร่เข้าเงื่อนไข ยึดอำนาจเมื่อนั้น สุดท้ายวงจรอุบาทว์ก็กลับมาเพราะประชาธิปไตยขี้โกง ทางรอดของประเทศไทยจึงมีทางเดียวเท่านั้น ที่ผมขอเรียนกับพี่น้องตรงนี้ให้เต็มบรรทัดคือ “ประชาธิปไตยไม่โกง”

และสุดท้าย ผมขอส่งสัญญาณไปยังพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครทุกคน ขอส่งสัญญาณไปยังพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศทุกคน ขอขอบคุณทุกกำลังใจ ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่พี่น้องช่วยสนับสนุนเรา ไม่ใช่ครั้งหน้าแต่ถอยหลังไปทุกครั้ง ตั้งแต่มีประชาธิปัตย์ก่อกำเนิดขึ้นมา และขอถือโอกาสนี้เรียกร้องพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศให้มาร่วมกันสนับสนุนวิถีประชาธิปไตยไม่โกงของประชาธิปัตย์ และขอถือโอกาสนี้ เรียกร้องไปยังพี่น้องประชาชนที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ที่คราวที่แล้วแม้ในยามวิกฤตครั้งหนึ่งของประชาธิปัตย์แต่พี่น้องยังไม่ทิ้งเรา ยังช่วยเลือกเรา ขอให้ยืนหยัดเลือกประชาธิปัตย์ต่อไป อย่าเปลี่ยนแปลง

ที่สำคัญพี่น้องชาวประชาธิปัตย์ที่ทิ้งเราไปคราวที่แล้ว เพราะอุบัติเหตุทางการเมือง ผมขอวิงวอนให้กลับมา กลับบ้านเรากลับมาจับมือกับพวกเรา ชาวประชาธิปัตย์ทุกคน เพื่อพาสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนที่สุด ของประเทศสถาบันนี้ที่ชื่อประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าด้วยกัน และไม่ใช่เพื่อเรา ไม่ใช่เพื่อประชาธิปัตย์ แต่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไปหลังการเลือกตั้ง

ผมขอถือโอกาสนี้อีกครั้งหนึ่งขอบคุณพี่น้องทุกคนครับทั้งพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร พี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ เราจะจับมือเดินไปด้วยกันเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศต่อไป ขอบคุณครับ พี่น้องครับ ทุกคนครับ สวัสดีครับ สวัสดีครับ
……………..