
“อัครเดช” หนุนแก้ ม.144 ให้ ครม.นำเงินที่ถูกปรับลดจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีมาใช้ช่วยแก้ปัญหาโควิด-19 ได้ พร้อมเห็นด้วยแก้ ม.83 ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ให้ ปชช.เลือก ส.ส.ที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ
23 มิ.ย. 64 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะสมาชิกรัฐสภาอภิปรายในการประชุมร่วมกันของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ร่าง และ ส.ส. ของพรรค ได้ลงชื่อร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล และหัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ได้อภิปรายถึงวัตถุประสงค์ และความจำเป็นในการยื่นแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่พรรคฯ ต้องการเห็นรัฐธรรมนูญที่จะมีจากนี้ได้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ตนจึงจะได้อภิปรายสนับสนุนใน 2 ประเด็นหลัก ในร่างที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 83 และร่างของพรรคร่วมรัฐบาลที่ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ว่า
ในส่วนของมาตรา 83 ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามีการให้มีการใช้บัตรเลือกตั้ง 1 ใบ ซึ่งเป็นการจำกัดเสรีภาพพี่น้องประชาชนในการเลือกพรรคการเมืองที่ตนชอบ และเลือก ส.ส. แบบแบ่งเขตที่ตนเองรัก ฉะนั้นการที่ได้มีการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญให้มีการเลือกตั้งโดยใช้บัตร 2 ใบเพื่อเลือกส.ส.แบบแบ่งเขต และเลือกพรรคการเมืองที่ตนเองนั้นต้องการ ให้มาบริหารประเทศชาตินั้นจึงเป็นเรื่องที่ตรงกับเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชน และสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชน ตรงตามวัตถุประสงค์ในการที่จะให้มี 2 ระบบ ก็คือ ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ฉะนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีการแก้ไขมาตรา 83 นั้น จึงเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนนั้น ต้องการเห็นและต้องการมีเสรีภาพในการเลือกผู้แทนที่ตนเองรัก แล้วก็เลือกพรรคการเมืองที่ตนเองชอบ ผ่านระบบการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ
ส่วนเรื่องที่สอง มาตรา 144 ที่มีการระบุ ห้ามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณ ที่ผ่านมาในรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้มีการบัญญัติให้สมาชิกรัฐสภานั้นห้ามยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณ ซึ่งตนก็เห็นด้วยที่จะไม่ให้สมาชิกรัฐสภานั้นได้ยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณเพื่อป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นและการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดทำงบประมาณ
ปัจจุบันนี้สภาผู้แทนราษฎรสามารถทำได้เพียงแค่ปรับลดงบประมาณในการตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณในแต่ละปี แต่พบว่ามีข้อจำกัดตรงที่ เมื่อกรรมาธิการได้มีการปรับลดงบประมาณไปแล้ว กลับไม่สามารถนำงบประมาณที่ปรับลดไปแล้วไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้
“เวลากรรมาธิการปรับลดงบประมาณก็จะปรับลดจากโครงการที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ที่เราเรียกว่าไขมัน พอเวลามีการปรับลดงบประมาณเราก็จะไปกองไว้ ที่ผ่านมาก่อนมีรัฐธรรมนูญปี 60 ก็สามารถที่จะแปรญัตติ นำงบประมาณนั้นมาใช้ในโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน แต่พอปี 60 มีการบัญญัติไม่ให้สมาชิกรัฐสภาได้ยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณ แม้ผมจะเห็นด้วยที่จะไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณเพื่อป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น แต่ผมอยากจะให้มีการแก้ไขโดยให้คณะรัฐมนตรีนั้นสามารถนำงบประมาณส่วนนี้มาทำโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนได้ เหมือนกับปีนี้ถ้าเราแก้ไขมาตรา 144 เราก็จะสามารถนำเงินงบประมาณในส่วนนั้นมาป้องกันไวรัส covid 19 ได้ ผ่านคณะรัฐมนตรี”
ฉะนั้นจึงสนับสนุนให้มีการแก้ไขมาตรา 144 โดยเสนอไม่ให้ ส.ส.และ ส.ว. เข้ามายุ่งเกี่ยวกับงบประมาณแต่ก็ขอเสนอให้คณะรัฐมนตรีสามารถนำเงินงบประมาณที่กรรมาธิการได้ปรับลดไปแล้วกลับเข้ามาใช้ในโครงการต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนได้
DemocratPartyTH #พรรคประชาธิปัตย์